สวัสดิการพื้นฐานที่ได้รับจากการทำงานในเยอรมันและการใช้ชีวิต
สวัสดิการพื้นฐานที่ได้รับจากการทำงานในเยอรมันและการใช้ชีวิต
ใครที่กำลังคิดหาเรื่องอยาก อพยพ อยากลองไปใช้ชีวิตต่างแดน อกหักเพราะรักช้ำอยากหนีออกไปอยู่ประเทศอื่น ประเทศเยอรมันนี เป็นหนึ่งในประเทศที่คุณภาพชีวิตค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีสวัสดิการดีๆหลายอย่างคุ้มครองแรงงาน แต่ถ้าคาดหวังว่ามาแล้วจะรวย หนีปายยยย...แต่ถ้าคิดจะมาทำงานพอแก่เกษียรกลับไปอยู่ไทย มาโล๊ด
หลายๆคนเห็นแค่ภาษีแล้วก็ต๊กกะใจ แต่จริงๆแล้วภาษีที่เราจ่ายๆไปนั้น มันคือภาษีและประกันต่างๆเพื่อตัวเราเองค่ะ หลายคนชอบเอาไปเหมารวมกัน ซึ่งถ้าเป็นคนโสดก็จะโดนหักไปราวๆ 40% ของเงินเดือน Brutto ของเรา ภาษีที่เยอรมันมีหลายประเภทนะคะ ขึ้นอยู่กับสถานะภาพสมรส พ่อ/แม่เลี้ยงเดี่ยว โสด งานจ็อบที่ 2
จะมาเล่าเรื่องหักประกันต่างๆก่อนว่า ถ้าทำงานที่เยอรมันเราจะโดนหักอะไรบ้าง
ข้อมูลจาก Gehaltsrechner Öffentlicher Dienst (oeffentlicher-dienst.info)
รายละเอียดที่ถูกหักจะมีทั้งจากฝั่งของผู้ว่าจ้างและลูกจ้าง นั่นหมายความว่า การที่บริษัทจ้างเราทำงานนั้นในความเป็นจริงแล้วเราเขาต้องจ่ายเงิน สำหรับพนักงาน 1 คน มากกว่าเงิน Brutto ที่เราได้รับค่ะ
เงินภาษีที่ถูกหักจะเรียกว่า Lohnsteuer นอกนั้นจะเป็นประกันที่ลงท้ายด้วย -versicherung ซึ่งมันเป็นการหักเพื่อตัวเราเองค่ะ
ภาษี
Lohnsteuer (ภาษี) ที่ถูกหักจะขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือนของเราค่ะจะมีเรทการหักที่แตกต่างกันออกไป และจะขึ้นอยู่กับหมายเลขภาษีของเราด้วยค่ะ
ประกัน (สำหรับตัวเราเอง)
ที่เยอรมันขึ้นชื่อเรื่องความมั่นคง ก็แน่นอนเราต้องจ่ายประกันต่างๆตามที่กฏหมายกำหนดเยอะม๊าก ซึ่งในส่วนของประกันนี้ โดยส่วนใหญ่ไม่ใช่แค่ฝั่งลูกจ้างนะคะที่ต้องจ่าย แต่ฝั่งนายจ้างเองก็ต้องจ่ายอีกส่วนเช่นกัน
Rentenversicherung เรียกภาษาไทยว่า ประกันเกษียร(บำเน็จ บำนาญ) ในส่วนนี้สำหรับชาวต่างชาติ (ชอบเรียกตัวเองว่าต่างด้าวจริงๆเลยค่ะ ฮ่าๆ) ถ้าเราทำงานถึง 5 ปี เราจะมีสิทธิ์ที่จะรับเงินส่วนนี้แบบเป็นบำเน็จได้เมื่อเราออกจากประเทศเยอรมันแบบถาวร (ก็ไม่แย่ใช่ไหมล่ะ? ใช้เงินเดือนชนเดือนก็ยังเหลือเงินเก็บ) แต่เราจะได้เพียงแต่ส่วนที่เราจ่ายเท่านั้น จะไม่ได้ในส่วนที่นายจ้างจ่ายให้เรา ถ้าอยากได้ส่วนที่นายจ้างจ่ายเราต้องทำให้ครบอายุ 67 ขวบจ้า หรือถ้าเราทำงานมาตั่งแต่อายุน้อยๆก็อาจจะเกษียรก่อน 67 ได้ สำหรับคนที่กำลังจะตัดสินใจไปถือสัญชาติเยอรมัน ก่อนตัดสินใจ "คิดให้ดีๆ" เพราะเราจะไม่สามารถรับบำเน็จก้อนได้ค่ะ การถือแค่ Niederlassungserlaubnis (ถือใบอนุญาติแบบถาวร) ก็สามารถที่จะใช้ชีวิตที่ประเทศเยอรมันได้อย่างไม่มีปัญหาค่ะ และได้รับสิทธิต่างๆ เช่นเงินตกงาน หรือสวัสดิการพื้นฐานต่างๆ แต่ใบอนุญาตนั้นก็สามารถที่จะถูกยกเลิกได้(ถ้าทำผิดกฏหมาย) ที่เยอรมันเป็นประเทศที่ไม่ใช่ว่าจะใจร้ายไล่คนกลับประเทศบ่อยๆนะ มีข้อยกเว้นอะไรหลายอย่างมาก (ดิฉันและสามีช่วยเหลือต่างด้าวเป็นประจำจึงรู้ดี ไม่ใช่พวกที่วันๆไปนั่ง Judge คนนั้นคนนี้แล้ว Assume เขาไม่ดี) ประกันส่วนนี้จะต้องจ่ายทั้งลูกจ้างและนายจ้างค่ะ ในบางองค์กรณ์นายจ้างจะมีการจ่ายสมทบให้ด้วยที่เรียกว่า Zusatzversorgung ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่กฏหมายบังคับค่ะ (ส่วนใหญ่องค์กรรัฐที่เยอรมันจะสมทบส่วนนี้ ถ้าเป็นองค์กรณ์ใหญ่ๆก็อาจจะได้สมทบมากกว่านี้) ข้อมูลหาอ่านได้ที่ https://www.deutsche-rentenversicherung.de/
Arbeitslosenversicherung ประกันการตกงาน ทุกคนที่ทำงานถ้าไม่ใช่ Minijob ต้องทำประกันตกงานค่ะ กฏหมายบังคับ ซึ่งประกันนี้เมื่อไหร่ที่เราตกงานเราจะได้เงินประมาณ 60-67 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนล่าสุดหลังหักภาษีค่ะ ดิฉันคิดว่าเงินแค่ 1.3 เปอร์เซ็นต์ที่จ่ายสำหรับความมั่นคงในส่วนนี้ถือว่าไม่แย่นะคะ วันดีคืนดีโดน Lay Off จะได้มีเวลาหางานใหม่ ในประกันส่วนนี้จะต้องจ่ายทั้งลูกจ้างและนายจ้างค่ะ
Krankenversicherung เงินประกันสุขภาพ สำหรับเงินประกันสุขภาพ เป็นประกันที่บังคับจ่ายเช่นกันค่ะ ซึ่งจะจ่าย ทั้งฝั่งลูกจ้างและนายจ้าง คนละครึ่ง ซึ่งประกันสุขภาพนี้ครอบคลุมไปถึงบุคคลในครอบครัวด้วยค่ะ ในกรณีที่เราเงินเดือนสูงมากๆเกินเพดาน เราสามารถย้ายไปประกันสุขภาพแบบ Privat ได้เพราะค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะถูกกว่า แต่เราแนะนำว่า ไม่ควรย้ายออกถ้าเงินเดือนไม่ได้ทะลุ 1 แสนยูโรต่อปีและมั่นคงขนาดจะไม่มีวันตกงาน คนที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ(เช่นครู ทหาร ตำรวจ เรียกภาษาเยอรมันว่า Beamte ส่วนงานที่ดิฉันทำจะเป็น Angestellte คือพนักงานที่จ้างโดยรัฐค่ะ) เจ้าหน้าที่รัฐจะได้สวัสดิการส่วนนี้เป็น profit พิเศษโดยที่เงินเดือนไม่ต้องเกินเกณฑ์กำหนวด เพราะการกลับเข้ามาประกันสุขภาจากรัฐจะยากกว่าออกไป และในกรณีที่คุณเจ็บป่วย "บ่อย" เขามีสิทธิที่จะเตะออกจากประกันได้ และเรื่องยุ่งยากมักจะเกิดภายหลัง
วันหยุดพักร้อน
ในประเทศเยอรมัน กฏหมายกำหนดให้พนักงานได้รับวันหยุดพักร้อนอย่างน้อย 20 วัน สำหรับคนทำงาน จ-ศ และ 24 วัน สำหรับคนทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ และนับเฉพาะวันทำงานเท่านั้น เช่นถ้าทำงาน จ.-ศ. เราจะนับวันจันทร์ ถึงศุกร์เป็น 5 วัน ถ้าลา 5 วันเราจะได้ 7 วันรวมเสาร์อาทิตย์ แต่ถ้าสมมุติวันอังคาร์คือวันหยุดนักขัต ก็จะบวกไปอีกเป็น จ-อ-พ-พฤ-ศ-ส-อ-จ เป็นทั้งหมด 6 วัน
บริษัทไอทีส่วนใหญ่จะเสนอพักร้อนที่ 30 วันต่อปีค่ะ และทำงาน จ.-ศ. ในบางสายงานที่มีการ stand by โดยส่วนใหญ่บริษัทจะเสนอเป็นวันพักร้อนเพิ่ม หรือไม่ก็ค่าตอบแทน ให้เป็น optional กับพนักงาน เราคิดว่าคนเยอรมันส่วนใหญ่ชอบความ work-life-balance มากกว่าได้เงินเดือนสูงๆ ส่วนใหญ่คนที่ฐานเงินเดือนสูงๆจะชอบลดจำนวนชั่วโมงทำงานเอาไปแลกกับเวลาแทน
วันพักร้อนในประเทศเยอรมันถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ work-life-balance ที่ดีเลยนะคะ เราทำงานหาเงินเหนือยแล้วก็ยังมีเวลาได้ออกไปใช้ชีวิต ได้ออกไปใช้เงินที่เราหามา
ลาคลอด/เลี้ยงบุตร
อันนี้เด็ดมากบอกเลย การที่เราทำงานสามารถที่จะลาคลอดหรือลาเลี้ยงบุตรตามกฏหมายได้นานถึง 3 ปี และได้รับเงินเดือน 67-100 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนไปจนถึงลูกอายุ 14 เดือน (1 ขวบ 4 เดือน) บริษัทจะไม่มีสิทธิห้ามไม่ให้ลาเลี้ยงบุตรค่ะ สามารถลาได้คนใดคนหนึ่งในกรณีที่ทำงานทั้งสองคนค่ะ ถ้าหากว่าภรรยาไม่ได้ทำงาน สามีก็สามารถใช้สิทธินี้ลาหยุดไปช่วยภรรยาเลี้ยงได้
ค่าครองชีพ
การใช้ชีวิตของแต่ละคนเท่าไหร่มาก เท่าไหร่น้อยนี่แล้วแต่คนเลยค่ะ แต่เรามองว่าค่าครองชีพที่เยอรมันก็ถือว่าไม่ได้แพงสูงจนอยู่ไม่ได้ขนาดนั้น ขึ้นอยู่กับเมืองที่เราอยู่ด้วย ที่จ่ายแบบหนักๆส่วนใหญ่ก็จะเป็นค่าที่อยู่อาศัยค่ะขึ้นอยู่กับเมืองที่เราทำงาน ส่วนข้าวของเครื่องใช้เรามองว่าเทียบกับไทยแล้วถือว่าถูกนะ ยาสระผมขวดละ 30 บาทตาม DM, Rossmann ผักต่างๆถ้าเราทำอาหารเองบ่อยๆประยุกต์ใช้ผักผลไม้ท้องถิ่น เรามองว่าไม่แพงค่ะ ส่วนอาหารที่นำเข้ามาจากเอเชียราคาจะแพง
ค่าที่พัก
ค่าที่พักก็จะตกที่ราวๆ 10 ยูโรต่อตารางเมตรค่ะ แล้วแต่ว่าอยู่ส่วนภูมิภาคไหน หรือย่านไหนด้วย ถ้าพักในเมืองหน่อยก็จะสะดวกสะบายเรื่องการเดินทาง การไปตลาดหรืออื่นๆ แต่ค่าใช้จ่ายก็จะแพงกว่าเมื่อเทียบกับการอยู่ชาญเมือง หลายๆคนก็เลือกอยู่ที่เมืองเล็กๆใกล้เคียงกับเมืองที่ทำงานแล้วนั่งรถไฟมาทำงานในเมืองแทน ก็แล้วแต่ว่าใครสะดวกแบบไหนค่ะ ส่วนตัวเราก็อาศัยอยู่ค่อนข้างในเมือง ด้วยเหตุผลเรื่องการเดินทางแล้วก็โรงเรียนของลูกค่ะ
ของดิฉันเองเช่าอาพาร์ตเม้นเล็กๆ อยู่กับสามีและลูก 1 คน ขนาด 70 ตรม. ก็ตกที่ราวๆ 8-900€ ค่ะ รวมค่าน้ำ ไฟ internet ต่างๆ ค่าเดินทางรายเดือน 60 € (ปัจจุบันใช้ Job Tickets 29€)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น